
เกาะโลโฟเทน ล่าแสงเหนือ นอร์เวย์
เกาะสวรรค์ที่ได้ชื่อว่างดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกใบนี้!
5-14 มีนาคม 2567
( รับ 8 ท่าน )
* ภาพทั้งหมดถ่ายภาพโดยอาจารย์ประสิทธิ์ จันเสรีกร
ทุกกรุ๊ปที่ผ่านมา เห็นแสงเหนือ 100%

หมู่เกาะโลโฟเทน ดินแดนในเขตอาร์คติกหรือเส้นแนวขั้วโลกเหนือ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ นับเป็นสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวที่ลือชื่อในทิวทัศน์ที่งดงามตระการตา มีเกาะแก่ง หาดทราย ผืนน้ำทะเล และทิวเขารูปทรงแปลกตา มีบรรยากาศงดงามชวนฝัน เป็นที่โปรดปรานของบรรดานักท่องเที่ยวที่นิยมธรรมชาติ มีสถานที่สวยงามมากมายนับไม่ถ้วน ในทริปนี้จะได้เที่ยวชมหมู่เกาะโลโฟเทนกันแบบเจาะลึกทุกซอกทุกมุม ในช่วงฤดูหนาวจะมีทิวทัศน์ของหิมะที่งดงามตระการตา รวมทั้งชมแสงเหนือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสุดอลังการและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นช่วงเวลาดีที่มีโอกาสเห็นแสงเหนืออย่างชัดเจนและงดงาม ในทริปนี้จะดูมีโอกาสเห็นแสงเหนือกันทุกคืน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแรงและสภาพอากาศ เที่ยวเกาะโลโฟเทนกับเรามั่นใจว่าท่านจะได้ภาพที่สวยงามคู่กับแสงเหนือ และภาพทิวทัศน์อันงดงามที่จะอยู่ในความทรงจำดีๆ ตลอดกาล นำทริปและถ่ายภาพโดยอาจารย์ประสิทธิ์ จันเสรีกร
* เดือนตุลาคม อุณหภูมิประมาณ 0-5 องศา



* โปรดอ่านรายละเอียดเงื่อนไขก่อนจองทัวร์
* สมาชิกต้องเดินทางจากกรุงเทพฯ เองโดยมีเจ้าหน้าที่ส่งทัวร์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และทีมงานรอรับที่สนามบินออสโล ประเทศนอร์เวย์
ค่าใช้จ่าย
ท่านละ 129,000 บาท
การจองทัวร์
มัดจำเมื่อจองทัวร์ ท่านละ 50,000 บาท และกรอกแบบฟอร์มจองทัวร์
ค่าใช้จ่ายไม่รวม
ค่าอาหารทุกมื้อ
ค่าขอวีซ่านอร์เวย์ ( มีทีมงานอำนวยความสะดวกในการยื่นขอวีซ่า )
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและอื่นๆ ที่ไม่ระบุในโปรแกรม
ค่าใช้จ่ายรวม
ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับภายใน
ค่าที่พักอพาร์ทเม้นท์บนเกาะโลโฟเทนตามโปรแกรม
ค่ารถนำเที่ยวตลอดโปรแกรม
ค่าบัตรชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ตามโปรแกรม
ค่าประกันเดินทาง วงเงิน 3,000,000 บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์ ( ใช้ยื่นวีซ่านอร์เวย์ )
การยกเลิกทัวร์
หลังจากจองทัวร์และชำระเงิน และได้รับวีซ่าเรียบร้อยแล้ว หากต้องการยกเลิก จะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริง ดังนี้
1. ยกเลิกก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 90 วัน คืนเงิน 100% โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง อาทิ ค่าวีซ่าเช็งเก้น
2. ยกเลิก 30-90 วัน คืนเงิน 50% + หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง
3. ยกเลิกภายใน 0-29 วัน จะไม่ได้รับเงินคืนทุกกรณี
4. การจองทัวร์ ถือว่าท่านยอมรับในข้อกำหนดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว
ที่พัก
อพาร์ทเม้นท์ Reinefjorden
ที่พักทั้งหมดเป็นบ้านพักริมทะเลหลังใหญ่ หลังละ 3 ห้องนอน พร้อมห้องครัว เตาอบ เตาไฟฟ้า อุปกรณ์ครัว ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ระเบียงชมวิว ฟรี WiFi



การขอวีซ่า
ทีมงานจะแจ้งวันกำหนดส่งเอกสารยื่นวีซ่าในกลุ่มไลน์
เอกสารขอวีซ่า : ประกอบด้วย ( เอกสารที่ต้องจัดเตรียมเอง ข้อ 1 - 6 )
1. หนังสือเดินทางเล่มจริงที่ยังไม่หมดอายุ (ต้องมีอายุที่สามารถใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 6 เดือนจนถึงวันที่เดินทางกลับประเทศไทย)
2. ถ่ายสำเนาหน้าแรกของหนังสือเดินทาง 2 แผ่น
3. ถ่ายสำเนาหน้าที่มีวีซ่าประเทศต่างๆ และมีตราประทับทุกหน้า
4. รูปถ่ายสีขนาด 35 x 45 มิลลิเมตร ไม่สวมแว่นตา พื้นหลังขาว จำนวน 2 รูป
5. สเตทเม้นท์จากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน อัพเดทไม่เกิน 15 วัน นับถึงวันยื่นวีซ่า
6. หนังสือรับรองการทำงาน ( ภาษาอังกฤษ ) ในหนังสือมีชื่อบริษัทและที่อยู่ ข้อความในหนังสือระบุชื่อ ตำแหน่ง และเงินเดือน ระบุวันลางาน และระบุวันที่เดินทางกลับมาปฏิบัติงานอีกครั้ง หากเกษียณแล้วไม่ต้องใช้
จัดกระเป๋า
เนื่องจากสายการบินในประเทศที่บินไปยังเกาะโลโฟเทน เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก จำกัดกระเป๋าเดินทางสูงไม่เกิน 26 นิ้ว น้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัม ท่านละ 1 ใบ ส่วนกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง 1 ใบ ขนาดไม่เกิน 55 x 40 x 20 ซม น้ำหนักไม่เกิน 8 กิโลกรัม
ข้อแนะนำการแต่งตัว
เสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาว อุณหภูมิประมาณ 2-6 องศา
อาหารการกิน
ภายในบ้านพักมีห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ครัว ตู้เย็น เตาอบ เตาไฟฟ้า พร้อมห้องรับประทานอาหาร สามารถนำอาหารจากเมืองไทย หรือซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีหลายแห่งในโลโฟเทน
ข้อควรทราบ
1. ทริปนี้เน้นการเที่ยวชมทิวทัศน์ในเวลากลางวัน และแสงเหนือในเวลากลางคืน สถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งจะปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศในแต่ละวัน
2. สถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งรถยนต์ไปถึงจุดหมาย ยกเว้นจุดชมวิวบนยอดเขา และชายหาดบางแห่งที่ต้องเดินขึ้น
3. ในแต่ละคืนจะเลือกสถานที่เหมาะสมที่สุดสำหรับชมแสงเหนือ หากบริเวณบ้านพักท้องฟ้าเปิดจะชมและถ่ายภาพแสงเหนือจากที่พัก แต่หากท้องฟ้าปิด และมีสถานที่อื่นซึ่งท้องฟ้าเปิด จะเดินทางจากบ้านพักไปตามล่าแสงเหนือ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความแรงของแสงเหนือซึ่งไม่สามารถคาดเดาล่วงหน้าได้
4. เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ของโลโฟเทน กลางวันประมาณ 5 องศา กลางคืนประมาณ 0 องศา อาจมีหิมะตกในบางวัน ควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวให้เพียงพอ
5. ทีมงานจะถ่ายภาพท่านกับแสงเหนือให้ รวมทั้งวิว ทิวทัศน์ต่างๆ มั่นใจว่าทริปนี้จะได้ภาพสวยอย่างแน่นอน



กำหนดการเดินทาง
5 มีนาคม 2567 กรุงเทพ-โคเปนเฮเก้น
23.00 น. เช็กอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เค้าเตอร์สายการบินไทย
6 มีนาคม 2567 โคเปนเฮเก้น-ออสโล-เลคเนส
01.20 ออกเดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 950
07.40 เดินทางถึงโคเปนโฮเก้น CPH ประเทศเดนมาร์ก
09.10 ออกเดินทางต่อโดยเที่ยวบิน SK 1464
10.20 เดินทางถึงออสโล ประเทศนอร์เวย์ (ทีมงานรอรับที่สนามบินออสโล)
12.45 ต่อเครื่องภายในประเทศ เที่ยวบิน SK 4112 ( เดินทางพร้อมทีมงาน )
14.25 เดินทางถึง Bodo
15.00 ออกเดินทางต่อโดยเที่ยวบิน WF 812
15.25 เดินทางถึงสนามบิน Leknes เกาะโลโฟเทน
เมื่อถึงโลโฟเทน นำท่านเดินทางต่อลัดเลาะไปตามริมชายฝั่งทะเลจนถึงหมู่บ้าน Hamnoy ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักของเราในทริปนี้และเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่างดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะโลโฟเทน ช่วงค่ำจะมีนักถ่ายภาพจำนวนมาก นิยมเดินทางมาถ่ายภาพในบริเวณนี้ โดยมีทะเลและภูเขาเป็นฉากหลังที่สวยงาม หากท้องฟ้าเปิดจะมีโอกาสเห็นแสงเหนือในยามค่ำคืน แต่หากคืนใดสภาพอากาศไม่ดี จะเปลี่ยนสถานที่ไปชมแสงเหนือบริเวณอื่นแทน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
ค่ำ ชมแสงเหนือ หากโชคดีแสงเหนือแรงพอและท้องฟ้าเปิด ก็จะได้ชมแสงเหนืออันงดงามตั้งแต่คืนแรก
พักที่ Reinefjorden หรือเทียบเท่า ( พักหลังละ 4 ท่าน )
7-11 มีนาคม 2567 Lofoten
ในเวลากลางวันเราจะเที่ยวกันแบบเจาะลึกในสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่ง โดยไม่เจาะจง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน โดยจากที่พักสามารถเดินทางไปได้แทบทุกจุดในหมู่เกาะเล็กๆ แห่งนี้ ซึ่งมีชายหาดอยู่มากมาย มีหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ หลายแห่งโอบล้อมด้วยน้ำทะเลและทิวเขาที่งดงามราวกับหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเดือนกันยายน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวในโลโฟเทน ทิวทัศน์งดงาม และอากาศไม่หนาวเกินไป
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ
Rorbuer คือชื่อของหมู่บ้านชาวประมงที่เป็นบ้านสีแดง ถูกดัดแปลงเป็นบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และพบเห็นได้มากมายตามชายฝั่งทะเลของโลโฟเทน
Nusfjord หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ที่มีชื่อเดียวกับฟอร์ดอันงดงาม เพียงแค่ได้เดินเที่ยวชมหมู่บ้านแห่งนี้ก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาเยือนแล้ว ตามบ้านต่างๆ จะเห็นปลาค็อดตากแห้งเรียงรายอยู่หน้าบ้าน เช่นเดียวกับหมู่บ้านประมงอื่นๆ ในโลโฟเทน ที่น่าสนใจคือมีมุมสวยๆ ให้บันทึกภาพมากมาย โดยเฉพาะจุดชมวิวมุมสูงที่มองเห็นทั้งหมู่บ้านได้อย่างชัดเจน และยังมีร้านอาหารทะเลชื่อดัง มีอาหารทะเลสดๆ ให้เลือกลิ้มลอง
Olenilsøya kystfort จุดชมวิวบนเนินเขาเตี้ยๆ ใช้เวลาเดินขึ้นเพียง 15 นาที มองเห็นวิวหมู่บ้าน Hamnoy ได้อย่างสวยงาม รวมทั้งหมู่บ้านชาวประมงที่ทาสีเหลืองสดใส แตกต่างจากหมู่บ้านอื่นๆ ที่มักทาสีแดงสลับขาว มองเห็นน้ำทะเลใสสะอาด โอบล้อมด้วยทิวเขาที่มียอดเขาแหลม เหมาะสำหรับชมแสงเช้าและแสงเหนือในยามค่ำคืน
Reine หมู่บ้านชาวประมงแสนน่ารักและงดงาม แวดล้อมไปด้วยโค้งอ่าวและทิวเขาที่มหัศจรรย์ เป็นสถานที่โปรดแห่งหนึ่งของนักปีนเขา รวมไปถึงนักวาดภาพ และนักถ่ายภาพ ที่เดินทางมาเยือนอย่างไม่ขาดสายในทุกๆ วัน และทุกฤดูกาล ในวันที่อากาศดีจะมีกิจกรรมเดินขึ้นไปชมวิวโค้งอ่าวและหมู่บ้านชาวประมงบนยอดเขา ใช้เวลาเดินราว 1-2 ชั่วโมง หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงทางด้านวิถีชีวิตแบบชาวประมงดั้งเดิม โดยนำปลาที่จับได้มาตากแห้งเป็นวิธีการถนอมอาหาร ใช้เก็บไว้ทานได้ยาวนาน ซึ่งปลาส่วนใหญ่ที่จับได้ในเขตนี้คือปลาค็อด ไปทางไหนก็เห็นปลาค็อดตากแห้ง ทำกันเป็นอุตสาหกรรมส่งขายในนอร์เวย์เองและต่างประเทศทั่วโลก เป็นสินค้าส่งออกเก่าแก่ที่ทำอย่างต่อเนื่องมานานนับพันปีทีเดียว
Å หมู่บ้านสุดท้ายที่อยู่ปลายสุดของเกาะโลโฟเทน มีธรรมชาติที่งดงาม และได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อสั้นที่สุดในโลก ออกเสียงว่า โอ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ชาวประมงนอร์วีเจียน จัดแสดงประวัติศาสตร์การทำประมงของหมู่เกาะโลโฟเทนในระยะเวลากว่า 200 ปีที่ผ่านมา ชมเรือนูร์ลันด์โบราณและอุปกรณ์การตกปลาชนิดต่างๆ
Reinebringen ยอดเขาสูง 448 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นับเป็นจุดชมวิวที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในโลโฟเทน มองเห็นหมู่บ้าน Reine รอบถึงยอดเขาต่างๆ ได้รอบทิศแบบพาโนรามา และยังเห็นทะเลสาบเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บนยอดเขาสูงอีกด้วย ระยะทางเดินราว 1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 2 ชั่วโมง
Bunesstranden จุดชมวิวและหาดทรายที่งดงามมากอีกแห่งหนึ่งอยู่ทางด้านเหนือของเกาะโลโฟเทน ไม่มีถนน ต้องเช่าเรือเดินทางไปราวหนึ่งชั่วโมง แล้วเดินลัดเลาะไปตามทะเลสาบที่ใสสะอาด โอบล้อมด้วยทิวเขา ราว 30 นาทีจะพบเห็นหาดทรายที่สวยงาม สามารถค้นหามุมมองสำหรับถ่ายภาพได้รอบทิศตามเนินเขาต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ชายหาด
Selfjord ฟยอร์ดที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในโลโฟเทน มองเห็นทิวเขาสูงที่งดงาม ยามที่น้ำนิ่งจะเห็นเงาสะท้อนน้ำที่ทุกต้องต้องตะลึงในความสวยงาม อีกทั้งยังมีจุดถ่ายภาพมากมายระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยวไปตามฟยอร์ดแห่งนี้
Haukland Beach, Kvalvika Beach, Uttakleiv Beach, Ytresand Beach, Rambergstranda, Skagsanden beach, Myrland beach, Unstad Beach ในแต่ละวัน เราจะเดินทางไปเที่ยวชมชายหาดงดงามที่มีอยู่มากมาย ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละวัน โดยจะไปเที่ยวให้ครบทุกหาดที่น่าสนใจ บางหาดรถไปถึงชายหาด แต่บางแห่งต้องเดินบ้าง มีทั้งแบบเดินทางราบ และเดินขึ้นเนินเขา แต่ทุกหาดก็มีความสวยงามและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของตัวเอง คุ้มค่ากับการเดินทางไปเยือนมากทีเดียว
ในทุกคืน หากโชคดีแสงเหนือแรงพอและท้องฟ้าเปิด ก็จะได้ชมแสงเหนืออันงดงาม สามารถเฝ้าชมได้จากบริเวณที่พัก
พักที่ Reinefjorden อพาร์ทเม้นท์หลังละ 2 ห้องนอน มีห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ครัว ตู้เย็น เตาไฟฟ้า ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ระเบียงชมวิว )
12 มีนาคม 2567 : Leknes
เช้า เดินทางไปยังเมือง Leknes แวะถ่ายภาพทิวทัศน์ที่งดงามระหว่างทาง เที่ยวชมเมือง Leknes เมืองที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลโฟเทน มีโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ มากมาย มีทิวทัศน์ริมอ่าวที่สวยงาม
จากนั้นเดินทางไปชม พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง Lofotr Vikingmuseum พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขุดค้นพบทางโบราณคดีและโครงการวิจัยที่ยาวนานซึ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 จัดแสดงบ้านที่เป็นสถาปัตยกรรมหินของชาวไวกิ้ง มีความยาวถึง 80 เมตร นับว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา
พักที่ Leknes
13 มีนาคม 2567 : Leknes-Oslo
15.30 ออกเดินทางจากสนามบิน Leknes
18.25 เดินทางถึง Oslo
พักโรงแรม Oslo Airport
14 มีนาคม 2567 สตอกโฮล์ม
12.45 ออกเดินทางต่อโดยสายการบิน SAS
13.45 เดินทางถึงสนามบินสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
ออกเดินทางต่อโดยการบินไทย เที่ยวบิน TG 961
15 มีนาคม 2567 Bangkok
เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพพร้อมภาพประทับใจที่จะอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน

* บ้านพักหลังละ 3 ห้องนอน ทุกห้องเป็นเตียงแยก 2 เตียง มีห้องครัว ห้องน้ำ และระบียงชมวิว ฟรี WiFi ( พักหลังละ 4-5 ท่าน )






