-
ไทยแลนด์โฟโต้ทัวร์ ใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/08113
-
บัตรอนุญาตผู้นำเที่ยว ( Tour Leader ) นำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศทั่วโลก เลขที่ 12.0150
-
แชทพูดคุยกับทีมงานของเราผ่านทาง line คลิกที่นี่
-
ติดตามข้อมูลข่าวสารทาง line ได้ที่ @thailandphototours
-
ติดตามทาง facebook
ครั้งหนึ่งในชีวิต!
ทัวร์อเมริกาฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
Yellowstone - Yosemite
New Hampshire - San Francisco
14-30 ตุลาคม 2568 ( 17 วัน 14 คืน ) เต็ม



ขอเชิญร่วมเดินทางท่องเที่ยวประเทศอเมริกาในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อากาศเย็นสบาย สัมผัสสุดยอดประสบการณ์เที่ยวอุทยานที่น่าตื่นตาตื่นใจและงดงามที่สุดของอเมริกาในทริปเดียว เยลโลว์สโตนและโยเซมิติ ปิดทริปเที่ยวเมืองซานฟรานซิสโก ถ่ายภาพกันอย่างจุใจ รับสมาชิกร่วมทริปเดินทางกลุ่มเล็กเพียง 10 ท่าน นำทริปและถ่ายภาพให้สมาชิกโดย อาจารย์ประสิทธิ์ จันเสรีกร
* กรุณาอ่านเงื่อนไขก่อนจองทัวร์
ไฮไลท์ที่น่าสนใจของทริปนี้
-
New Hampshire
-
Yellowstone National Park
-
Yosemite National Park
-
The Great Salt Lake
-
San Francisco
-
Pacific Coast
ค่าใช้จ่ายท่านละ 160,000 บาท ( สมาชิกเก่าลดท่านละ 3,000 บาท )
มัดจำเมื่อจองทัวร์ 60,000 บาท , ส่วนที่เหลือชำระภายในวันที่ 1กันยายน 2568
ค่าใช้จ่ายรวม
-
ค่าที่พักทุกแห่ง รวม 14 คืน
-
ค่าอาหารเช้าที่โรงแรม
-
ค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ บอสตัน - แจ็คสัน โฮล
-
ค่าพาหนะการเดินทาง รถแวน 12 ที่นั่ง
-
ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานทุกแห่งตามโปรแกรม
-
ค่ากิจกรรมตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทุกแห่งตามโปรแกม
ค่าใช้จ่ายไม่รวม
-
ตั๋วเครื่องบินไปกลับระหว่างประเทศตามโปรแกรม ( กรุงเทพฯ-บอสตัน , ซานฟรานซิสโก-กรุงเทพฯ )
-
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ (นำอาหารไทยไปได้ ยกเว้นอาหารสดและผลไม้)
-
ค่าธรรมเนียมขอวีซ่าอเมริกา (ต้องขอวีซ่าอเมริกาด้วยตนเอง)
-
ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นบางแห่ง และค่าทิปอื่นๆ (ถ้ามี)
-
ค่ากิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุในโปรแกรม
ที่พัก โรงแรมมาตรฐานและอพาร์ทเม้นท์ พักห้องละ 2 ท่าน มีห้องน้ำในตัว (บางแห่งมีตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องทำกาแฟ) ฟรี WiFi
สภาพอากาศ
-
New Hampshire 10 องศา
-
Yellowstone 8-15 องศา
-
Yosemite 20 องศา
-
San Francisco 20 องศา
พาหนะการเดินทาง รถแวน 12 ที่นั่ง ( สมาชิก 10 ท่าน + หัวหน้าทัวร์ขับรถนำเที่ยง 1 ท่าน )
กระเป๋าเดินทาง จำกัดกระเป๋าเดินทางสูงไม่เกิน 29 นิ้ว (รวมล้อ) ท่านละ 1 ใบ (ท้ายรถมีที่วางกระเป๋าจำกัด)




กำหนดการเดินทาง
พระอาทิตย์ขึ้น 07.00 , พระอาทิตย์ตก 18.00
14 ตุลาคม 2568 : กรุงเทพฯ - บอสตัน
04.00 พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทีมงานอำนวยความสะดวกในการเช็กอิน
07.00 ออกเดินทางโดยเที่ยวบิน NH 806
15.20 เดินทางถึงสนามบินนาริตะ โตเกียว
17.00 ออกเดินทางต่อโดยเที่ยวบิน NH 12
14.55 เดินทางถึงสนามบินชิคาโก ORD
18.14 ออกเดินทางต่อโดยเที่ยวบิน NH 7749
21.45 เดินทางถึงบอสตัน โลแกน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศสหรัฏอเมริกา หัวหน้าทัวร์รอรับที่สนามบิน
พักที่ Holiday Inn Boston Logan Airport - Chelsea พักห้องละ 2 ท่าน มีห้องน้ำในตัว ฟรี WiFi


15-16 ตุลาคม 2568 : ชมใบไม้เปลี่ยนสีอุทยาน White Mountain National Forest
ใน 2 วันนี้ จะนำท่านเที่ยวชมชมใบไม้เปลี่ยนสีอุทยาน White Mountain National Forest ซึ่งเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุดในอเมริกา และพีคสุดช่วงกลางเดือนตุลาคมของทุกปี จุดท่องเที่ยวหลักอยู่บนถนนหลวง Kancamagus ระยะทางราว 60 กิโลเมตร ตื่นตาตื่นใจกับทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีสุดอลังการ ชมวิวมุมสูง น้ำตก ลำธาร และอื่นๆ อีกมากมาย จุดที่น่าสนใจอาทิ East Branch Pemigewasset River , Hancock Overlook , Pemigewasset Overlook , Sugar Hill Scenic Vista , Rocky Gorge , Swift River และนำท่านเดินเทรลชมป่าเปลี่ยนสีระยะสั้นเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามอย่างใกล้ชิด
พักที่ The Village of Loon Mountain Lincoln Apartment มีครัว ไม่มีอาหารเช้า

17 ตุลาคม 2568 : บอสตัน - แจ็คสัน โฮล
หลังอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางไปยังสนามบินบอสตัน
15.31 ออกเดินทางโดยสายการบินยูไนเต็ด เที่ยวบิน UA2297
18.04 เดินทางถึงสนามบินเดนเวอร์
19.20 ออกเดินทางต่อโดยสายการบินยูไนเต็ด เที่ยวบิน UA1222
20.49 เดินทางถึงสนามบิน แจ็คสัน โฮล
พักที่ Snake River Lodge Two bed room suite 130 ตรม มีครัว ไม่มีอาหารเช้า


18-20 ตุลาคม 2568 : อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ( เที่ยวในอุทยาน 3 วันเต็ม )
หลังอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เยลโลว์สโตนเป็นอุทยานแห่งแรกของโลกและของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในเขตติดต่อ 3 รัฐได้แก่ ไวโอมิง มอนแทนา และไอดาโฮ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐไวโอมิง เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ มีเนื้อที่มากกว่า 2 ล้านเอเคอร์ คือประมาณ 43,750 ตารางไมล์ หรือ 8,992 ตารางกิโลเมตร หรือ 5,620,000 ไร่ ภายในอุทยานประกอบไปด้วยที่ราบสูงและภูเขาสูงมีหน้าผาชัน และทะเลสาบ เยลโลว์สโตนเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีบ่อน้ำร้อน และน้ำพุร้อน มากกว่า 10,000 แห่ง และ 250 แห่งเป็นบ่อน้ำพุร้อน (เป็นแมกมาใต้ดินที่พุ่งออกมา) และน้ำพุร้อนที่สำคัญคือ น้ำพุร้อนโอลด์เฟทฟุล ซึ่งมีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาทุกๆ 33 และ 93 นาที โดยไม่เปลี่ยนแปลงเลยตลอดระยะเวลา 100 ปีที่ผ่านมา ยังมีน้ำตกอีกกว่า 300 แห่ง ที่สามารถค้นพบและท่องเที่ยวได้อีกมากมาย
ภายในอุทยานมีสัตว์ป่าที่น่าสนใจมากมาย อาทิหมีกริซลี หมีดำ ควายป่าไบซัน กวางมูส กวางเอลก์ แพะภูเขาบิกฮอร์น แมวป่า หมาป่า เราจะท่องเที่ยวกันอย่างเต็มอิ่มตลอด 3 วันเต็ม จุดที่น่าสนใจเช่น
-
Old Faithful and Upper Geyser Basin:
เยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก Old Faithful geyser และยังมีน้ำพุร้อนอื่นๆ เช่น Castle, Grand, Daisy และ Riverside geysers
-
Grand Prismatic Spring:
บ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกา และใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากทะเลสาบฟรายอิงแพนในนิวซีแลนด์ และทะเลสาบบอยลิงในโดมินิกา น้ำพุแห่งนี้ตั้งอยู่ในแอ่งน้ำพุร้อนมิดเวย์ น้ำพุแกรนด์พริสมาติกถูกบันทึกโดยนักธรณีวิทยาที่ทำงานในสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาเฮย์เดนในปี พ.ศ. 2414 และตั้งชื่อตามสีสันที่โดดเด่น สีของน้ำพุนี้ตรงกับสีส่วนใหญ่ที่พบเห็นในการกระจายแสงสีรุ้งของแสงสีขาว ได้แก่ สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียว และสีน้ำเงิน
-
Grand Canyon of the Yellowstone:
หุบเขากว้างใหญ่และงดงาม มองเห็นน้ำตก Lower Yellowstone Falls ซึ่งใหญ่กว่าไนแอการาสองเท่าได้อย่างชัดเจน
-
Lamar Valley:
หุบเขาที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า "America's Serengeti,อยู่ทางตอนเหนือของอุทยาน มีสัตว์ป่าอาศัยอย่างชุกชุม อาทิ ควายป่าไบซัน หมี หมาป่า กวาง และอื่นๆ อีกมากมาย โดยส่วนใหญ่สัตว์ป่าจะออกหากินในเวลาเช้าตรู่ และใกล้พลบค่ำ
-
Mammoth Hot Springs:
บ่อน้ำพุร้อนที่มีสภาพแวดล้อมอันสวยงาม เป็นจุดเช็กอินยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของอุทยาน
พักที่ Holiday Inn West Yellowstone ห้องพัก 2 เตียง (ห้องละ 2 ท่าน) มีอาหารเช้า




21 ตุลาคม 2568 : ทะเลเกลือซอลต์เลค
เช้า ออกเดินทางมุ่งหน้าลงใต้ ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง จุดหมายคือทะเลเกลือ The Great Salt Lake ทะเลสาบใหญ่อันดับแปดของโลก ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา และเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกตะวันตก มีความลึกเฉลี่ยเพียง 5 เมตร ในอดีตเคยลึกกว่านี้มาก แต่เมื่อน้ำในทะเลสาบแห้งลงทำให้มีความเค็มของเกลือสูงและลงในลอยตัวในน้ำได้อย่างไม่จม บางแห่งน้ำแห้งเห็นแต่ผลึกเกลือสีขาว สามารถนำรถลงไปได้อย่างสบาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและถ่ายภาพยอดนิยมมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง โดยแร่ธาตุเกลือต่างๆ ไหลมาจากแม่น้ำสามแห่ง ได้แก่ แม่น้ำจอร์แดน เวเบอร์ และแบร์ สะสมแร่ธาตุประมาณ 1.1 ล้านตันในทะเลสาบต่อปี ทะเลสาบนี้ถูกเรียกว่า "ทะเลเดดซีของอเมริกา"
พักที่ Holiday Inn Express & Suites Elko ห้องพัก 2 เตียง (ห้องละ 2 ท่าน) มีอาหารเช้า




22 ตุลาคม 2568 : อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม จากนั้นออกเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี ( 6-7 ชั่วโมง )
เย็นเดินทางถึงอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากของอเมริกา นั่นคือ Yosemite National Park อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี เป็นอุทยานแห่งชาติที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีพื้นที่ 3,081 ตารางกิโลเมตร โดยมีพื้นที่จรดทะเลทรายเนวาดา มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 3 ล้านคนต่อปี และได้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1984) โยเซมิตีเป็นที่รู้จักในชื่อของหน้าผาหินแกรนิต ยอดเขาโดมครึ่งซีก (Half dome) น้ำตกขนาดใหญ่หลายน้ำตก พื้นที่เกือบทั้งหมดเป็นป่าสมบูรณ์ มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ และยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทั้งปี
พักที่ Inside Yosemite Mountain Beauty บ้านพักหนึ่งหลัง 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีครัว




23-24 ตุลาคม 2568 : อุทยานแห่งชาติโยเซมิตี ( เที่ยวในอุทยาน 2 วันเต็ม )
ในสองวันนี้จะท่องเที่ยวในอุทยานโยเซมิตีอย่างเต็มอิ่ม อาทิ สวนป่า Mariposa Grove ที่เต็มไปด้วยไม้ยักษ์อายุนับพันปี บางต้นถูกเจาะทะลุให้ม้าวิ่งผ่านไปได้ , Half Dome ภูเขาหินทรงโค้ง สัญลักษณ์ของโยเซมิตี ที่ถูกถ่ายทอดเป็นภาพถ่ายอันงดงามโดยศิลปินนักถ่ายภาพชื่อดังก้องโลก แอนเซิล อดัมส์ , El Capitan จุดชมวิวที่โด่งดังมากอีกแห่งหนึ่งในอุทยาน มีภูเขาหินขนาดใหญ่สูงกว่า 900 เมตร แวดล้อมไปด้วยป่าสนที่สวยงาม , Sentinel Dome จุดชมวิวและน้ำตกที่งดงาม อีกหนึ่งสถานที่ซึ่ง แอนเซิล อดัมส์ เคยเดินทางมาบันทึกภาพในปี 1940 และถูกเผยแพร่ออกไปทั้งในอเมริกาและทั่วโลก ทำให้นักท่องเที่ยวและนักถ่ายภาพเดินทางมายังที่นี่เป็นจำนวนมากในทุกฤดูกาล , Bridalveil Falls น้ำตกขนาดใหญ่ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นและสัมผัสเป็นด่านแรกหากเดินทางเข้าอุทยานจากทางฝั่งตะวันตก ตัวน้ำตกสูงกว่า 60 เมตร มองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเท่ียวภายในอุทยานอีกมากมาย จะไปเที่ยวชมให้มากที่สุดเท่าที่เวลาและสภาพอากาศเอื้ออำนวย
บริเวณที่พักมีร้านอาหารหลายแห่ง มีเมนูให้เลือกมากมาย โดยเปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงพฤษจิกายนของทุกปี เราจะซื้ออาหารจากร้านอาหารไปทานแบบปิคนิคในเวลากลางวัน เมนูส่วนใหญ่เป็น เบอร์เกอร์ แซนวิส สลัด พิซซ่า ฯ สำหรับมื้อค่ำร้านอาหารต่างๆ จะปิดบริการประมาณ 2-3 ทุ่ม
พักที่ Inside Yosemite Mountain Beauty บ้านพักหนึ่งหลัง 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีครัว



25 ตุลาคม 2568 : ซานฟรานซิสโก
หลังอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางต่อไปซานฟราน ซิสโก ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซานฟรานซิสโก แปลว่า นักบุญฟรังซิส มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า นครและเทศมณฑลซานฟรานซิสโก City and County of San Fracisco) เป็นเมืองใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีประชากรประมาณแปดแสนคน มีความหนาแน่นประชากรเป็นอันดับสองของประเทศ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก ชาวยุโรปกลุ่มแรกที่มาตั้งรกรากในซานฟรานซิสโกคือชาวสเปน โดยในปี ค.ศ. 1776 เมืองมีชื่อว่า เซนต์ฟรานซิส (St. Francis) ในภายหลังจากช่วงยุคตื่นทองในปี ค.ศ. 1848 ทำให้ประชากรในซานฟรานซิสโกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมืองเติบโตอย่างมาก ถึงแม้ว่าซานฟรานซิสโกจะประสบปัญหา แผ่นดินไหวและไฟไหม้ขนาดใหญ่ในช่วงปี ค.ศ. 1906 ซานฟรานซิสโกกลับฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และได้ชื่อว่าเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในแถบชายฝั่งตะวันตกของประเทศ
ซานฟรานซิสโกมีลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเขา และมีชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก สัญลักษณ์ที่ขึ้นชื่อของเมืองซานฟรานซิสโกได้แก่ สะพานโกลเดนเกต และแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงได้แก่ เกาะอัลคาทราซ รถรางซานฟรานซิสโก เพียร์เทิรตีนายด์ และ ถนนลอมบาร์ด เป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ และชาวเอเชียอาศัยที่อ่าวซานฟรานซิโกเป็นจำนวนมาก
เย็น นำท่านนั่งรถรางชมเมืองซานฟรานซิสโก หรือที่เรียกว่า Cable Car เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่มีชื่อเสียงและเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ปัจจุบันเหลือเพียง 3 สายที่ยังคงให้บริการอยู่ ได้แก่ Powell-Hyde Line, Powell-Mason Line และ California Street Line รถรางเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะสำหรับเดินทาง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของซานฟรานซิสโก รถรางซานฟรานซิสโก เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 1873 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์แห่งชาติในปี 1964 ในอดีตเคยมีรถรางถึง 23 สาย แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 3 สายที่ยังคงใช้งานอยู่ รถรางเหล่านี้เป็นระบบเคเบิลคาร์ที่ควบคุมด้วยตนเองระบบสุดท้ายของโลกและเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองซานฟรายซิสโก
พักที่โรงแรม Crown Plaza San Francisco Airport ห้องพัก 2 เตียง (ห้องละ 2 ท่าน) มีอาหารเช้า


26 ตุลาคม 2568 : ซานฟรานซิสโก
หลังอาหารเช้าที่โรงแรม ไปเที่ยวชมสวนสาธารณะโกลเด้นเกต (Golden Gate Park) สวนสาธารณะใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในซานฟรานซิสโก ในพื้นที่กว่า 1,017 เอเคอร์ โดยแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ อาทิ สวนพฤกษศาสตร์ (Conservatory of Flowers), สวนญี่ปุ่น (Japanese Tea Garden), พิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์และสิ่งมีชีวิต (Academy of Sciences), AIDS Memorial Grove, พิพิธภัณฑ์ de Young Museum และอื่นๆ อีกมากมาย
จากนั้นเดินทางผ่านถนนแคลิฟอร์เนีย (California Street) ถนนเส้นที่ยาวที่สุดในเมืองซานฟรานซิสโก มีระยะทางประมาณ 8.4 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นถนนเส้นแรกที่เชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองไปยังทางขึ้นไฮเวย์ของอเมริกา บรรยากาศรอบๆ รายล้อมไปด้วยตึกอาคารต่างๆ บนถนนมีเส้นทางรถรางสุดคลาสสิกที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของถนนเส้นนี้
เที่ยง ไปเที่ยวชม ไชน่าทาวน์ (Chinatown San Francisco) ตั้งอยู่บนทางแยกของถนน Grant Avenue และ Bush Street ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1848 นับเป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวจีนที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกาเหนือ ที่นี่คุณจะได้พบกับกลิ่นอายวัฒนธรรมจีน และสถาปัตยกรรมแบบจีนตลอดทั้งย่าน เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารอร่อยที่ชวนให้ลิ้มลองมากมาย
บ่าย เดินทางไปเที่ยวต่อที่ Fisherman's Whaf เป็นท่าเรือชาวประมงเก่าแก่ที่ปัจจุบันพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม มีร้านค้า ร้านขนม และร้านอาหารทะเลสดๆ แวะชม Pier 39 จุดชมสิงโตทะเล และที่นี่ยังมีสวนสนุก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกต่างๆ อีกมากมาย
เย็น เดินทางไปชม Twin Peaks จุดชมวิวบนเนินเขาสองลูกที่มีความสูง 900 เมตร ทำให้เห็นทิวทัศน์ของเมืองซานฟรานซิสโกได้กว้างไกลไปจนถึงตัวอ่าว มีเส้นทางรถยนต์โค้งคดเคี้ยวขึ้นไปตามเนินเขา และเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สามารถเดินจากเนินเขาทางทิศเหนือมายังทิศใต้
พักที่โรงแรม Crown Plaza San Francisco Airport ห้องพัก 2 เตียง (ห้องละ 2 ท่าน) มีอาหารเช้า



27 ตุลาคม 2568 : ซานฟรานซิสโก - Pacific Coast Highway
Pacific Coast Highway หรือทางหลวงหมายเลข 1 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเส้นทางเลียบชายฝั่งทะเลที่สวยงามมาก โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านซานฟรานซิสโก. เส้นทางนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงามของมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการขับรถชมวิว
จุดหมายแรกนำท่านชม Cypress Tree Tunnel อุโมงค์ต้นไซเปรสมอนเทอเรย์ซึ่งปลูกขึ้นราวปี ค.ศ. 1930 ปัจจุบันกลายมาเป็น "อุโมงค์ต้นไม้" อันสวยงาม ตั้งอยู่ที่สถานีรับสัญญาณพอยต์เรเยส ถือเป็นภูมิทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ชวนให้นึกถึงเกียรติยศที่บริษัทวิทยุแห่งอเมริกา (RCA) มอบให้กับการดำเนินงานอันทรงคุณค่าและเก่าแก่ของสถานีรับสัญญาณวิทยุทางทะเล KPH ต้นไซเปรสมอนเทอเรย์เป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้ไม่กี่ชนิดที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับลมและสภาพอากาศในมหาสมุทรของพอยต์เรเยสได้ สถานีสีขาวสไตล์อาร์ตเดโคที่ปลายอุโมงค์ต้นไม้แห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1929 ถึง ค.ศ. 1931 ตลอดศตวรรษที่ 20 สถานีนี้ทำหน้าที่สื่อสารระหว่างเรือกับฝั่ง ที่นี่เป็นที่ที่บุรุษและสตรีบางส่วนคอยเฝ้าดูคลื่นวิทยุทั้งบนฝั่งและในทะเล ครั้งหนึ่ง ชายฝั่งของเราเคยมีสถานีวิทยุรหัสมอร์สขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วทุกแห่ง ซึ่งทุกสถานีใช้สื่อสารกับเรือในทะเล แต่ปัจจุบันสถานีเหล่านี้หายไปหมดแล้ว เหลือเพียงสถานีนี้ สถานีที่พวกเขาเรียกว่า "ยักษ์ใหญ่แห่งมหาสมุทรแปซิฟิก"
จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังริมอ่าวซานฟราน เดินเล่นชมวิวเลียบชายหาดริมอ่าวมองเห็นสะพานโกลเดนเกตและคุก Alcatraz Island หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Rock เป็นเรือนจำกลางที่เคยใช้คุมขังนักโทษที่มีความอันตรายที่สุดของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่บนเกาะกลางอ่าวซานฟรานซิสโก
บ่าย มุ่งหน้าลงใต้ เดินทางไปตามถนนที่เลียบชายฝั่งมหาสมุทร คุณจะตื่นตาตื่นใจกับวิวทิวทัศน์ของหน้าผาและหาดทรายที่งดงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนยอดนิยม ช่วงเย็นเดินทางกลับเข้าเมืองซานฟรายซิสโก แวะชมแสงสีเมืองยามค่ำคืนจากจุดชมวิวบนยอดเขาก่อนกลับเข้าโรงแรม
พักที่โรงแรม Crown Plaza San Francisco Airport ห้องพัก 2 เตียง (ห้องละ 2 ท่าน) มีอาหารเช้า




28 ตุลาคม 2568 : ซานฟรานซิสโก
หลังอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางไปยังสนามบินเพื่อเช็กอิน
12.00 ออกเดินทางโดยเที่ยวบิน NH7
29 ตุลาคม 2568 : โตเกียว
15.20 เดินทางถึงสนามบินนาริตะ โตเกียว
18.55 ออกเดินทางต่อโดยเที่ยวบิน NH805
30 ตุลาคม 2568 : กรุงเทพฯ
12.20 เดินทางถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ พร้อมภาพถ่ายประทับใจที่จะอยู่ในความทรงจำดีๆ ไปอีกนานแสนนาน