top of page
  • ไทยแลนด์โฟโต้ทัวร์  ใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/08113 

  • บัตรอนุญาตผู้นำเที่ยว ( Tour Leader ) นำคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศทั่วโลก เลขที่ 12.0150 จากกรมการท่องเที่ยว (Department of Tourism) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

  • แชทพูดคุยกับทีมงานของเราผ่านทาง line  คลิกที่นี่

ซัมเมอร์ สวิตเซอร์แลนด์
 

21 สิงหาคม - 2 กันยายน 2567 ( 13 วัน , 10 คืน ) ว่าง 4 ที่

  ทัวร์เจาะลึกสวิตเซอร์แลนด์ สัมผัสกับทิวทัศน์ที่งดงามอลังการของสุดยอด 9 ยอดเขา สวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยทะเลสาบ หมู่บ้านแสนสวย ถ้ำน้ำแข็ง และอื่นๆ อีกมากมาย รับสมาชิกเพียง 10 ท่าน เดินทางด้วยรถไฟระดับเฟิร์สคลาส รถราง เคเบิลคาร์ รถบัส และเรือท่องทะเลสาบ บินตรงโดยการบินไทย กรุงเทพฯ - ซูริค นำทริปและถ่ายภาพให้สมาชิกโดยอาจารย์ประสิทธิ์ จันเสรีกร

ค่าทัวร์ 

  • ท่านละ 220,000 บาท , มัดจำเมื่อจองทัวร์ 60,000 บาท ชำระส่วนที่เหลือภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567

  • ท่านละ 184,000 บาท (ซื้อตั๋วการบินไทยเอง เที่ยวบินตามที่ระบุในรายการทัวร์ ก่อนออกตั๋วกรุณาตรวจสอบทริปยืนยันการเดินทางเมื่อจำนวนสมาชิกครบ 10 ท่าน)

 

จำนวนสมาชิก

เดินทางกลุ่มเล็กเพียง 10 ท่าน

เงื่อนไขการยกเลิก

ยกเลิกก่อนเดินทาง 90 วัน คืนเงินมัดจำ (หักค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปแล้วตามจริง)

ยกเลิกก่อนเดินทาง 30-89 วัน คืนค่าทัวร์โดยหักค่าใช้จ่ายตามจริง

ยกเลิกก่อนเดินทาง น้อยกว่า 30 วัน ไม่คืนเงินทุกกรณี

ค่าใช้จ่ายรวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับชั้นประหยัด สายการบินไทย ( บินตรง กรุงเทพฯ - ซูริค )

  • ค่าที่พัก 10 คืน โรงแรมพร้อมอาหารเช้า ( พักห้องละ 2 ท่าน มีห้องน้ำในตัว )

  • ค่าประกันเดินทางวงเงิน 1,500,000 บาท

  • ค่าตั๋วรถไฟชั้น 1 ( Swiss Pass ) รถราง เคเบิลคาร์ รถบัส เรือ ตามโปรแกรม


ค่าใช้จ่ายไม่รวม
ไม่รวมอาหารกลางวันและอาหารค่ำ

 

วีซ่า ขอวีซ่าเช็งเก้นจากสวิตเซอร์แลนด์ นัดยื่นวีซ่าประมาณต้นเดือนพฤษภาคม (หากมีวีซ๋าแล้วลด 3,000 บาท/ท่าน)

 

ที่พัก

โรงแรมมาตรฐาน พักห้องละ 2 ท่าน ห้องน้ำในตัว พร้อมอาหารเช้า

ข้อควรทราบ

1. สภาพอากาศค่อนข้างหลากหลาย อุณหภูมิ 15-20 องศา บนยอดเขาอากาศเย็น 

2. ยอดเขาบางแห่งอากาศหนาว มีหิมะ ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม

3. ทริปนี้เน้นเส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติเป็นหลัก รวมถึงหมู่บ้านบนยอดเขาเช่น Murren, Wengen, Grindelwald ต้องเดินเทรลชมวิว สมาชิกควรมีสุขภาพแข็งแรงดี

4. การเดินทางใช้รถไฟเป็นหลัก บางช่วงเป็นรถไฟไต่เขาและเคเบิ้ลคาร์ รวมทั้งรถบัสและเรือล่องในทะเลสาบ

5. ค่าทัวร์รวมเฉพาะอาหารเช้าที่โรงแรม อาหารกลางวันจะพาไปร้านอาหารระหว่างทาง หรือจะเตรียมไปเองก็ได้ ส่วนอาหารค่ำมีร้านอาหารใกล้ๆ ที่พัก หรือซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้โรงแรม

กำหนดการ  ( จุดท่องเที่ยวต่างๆ อาจสลับปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน )

21 สิงหาคม 2567 กรุงเทพฯ

22.30 พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ

22 สิงหาคม 2567 ซูริค-อินเทอร์ลาเคิน

01.05 ออกเดินทางโดยการบินไทย เที่ยวบิน TG 970 

07.50 เดินทางถึงสนามบินซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถไฟมุ่งหน้าไปยังอินเทอร์ลาเคิน เมืองท่องเที่ยวที่โอบล้อมไปด้วยแนวเทือกเขาแอลป์สวิส และตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างสองทะเลสาบใหญ่ เป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในเขตเทือกเขาจุงเฟรา เราพักที่เมืองนี้ 8 คืน โรงแรมอยู่ติดกับสถานีรถไฟ แวดล้อมไปด้วยร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหาร

  บ่าย นำท่านเดินทางไปยังกระเช้าขึ้นเขาไนเดอร์ฮอร์น บนยอดเขาสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองอินเทอร์ลาเคินได้อย่างสวยงามโดยมีเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง ระยะทางเดินประมาณ 1-2 กิโลเมตร จากนั้นนั่งรถรางไปลงริมทะเลสาบ ชมน้ำตกและวิวทะเลสาบมุมสูง ปิดท้ายวันแรกด้วยการล่องเรือกลับอินเทอร์ลาเคิน ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสองฟากฝั่งทะเลสาบเบรียนซ์ 

พักที่โรงแรม Hotel Weisses Kreuz หรือเทียบเท่า (หน้าสถานีรถไฟ) ห้องละ 2 ท่าน มีห้องน้ำในตัว พร้อมอาหารเช้า

23-29 สิงหาคม 2567 อินเทอร์ลาเคิน

  การท่องเที่ยวใน 7 วันถัดไปจะเลือกเดินทางไปตามสถานที่และยอดเขาต่างๆ เพื่อท่องเที่ยวและเดินเทรลชมทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยแต่ละวันจะเลือกขึ้นยอดเขาที่มีสภาพอากาศดีที่สุด เนื่องจากตามเทือกเขาแอลป์จุดต่างๆ สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเดินทางจะนั่งรถไฟ แล้วต่อเคเบิลคาร์ รถบัส หรือรถรางไต่เขาไปจนถึงยอดเขา จากนั้นจะเดินเทรลชมทิวทัศน์ มีระยะทางแตกต่างกันในแต่ละสถานที่ ตั้งแต่ 1 - 4 กิโลเมตร อาจจะมีทางเดินชันในบางพื้นที่ ควรใช้รองเท้าเดินป่า หรือรองเท้าหุ้มส้นพื้นแข็ง และไม้เทรคกิ้งเพื่อความสะดวกในการเดินเที่ยว 

พักที่โรงแรม Hotel Weisses Kreuz หรือเทียบเท่า (หน้าสถานีรถไฟ) ห้องละ 2 ท่าน มีห้องน้ำในตัว พร้อมอาหารเช้า

Jungfrau

จุงเฟรา ภูเขาที่มีความสูงถึง 4,158 เมตร เป็นหนึ่งในยอดเขาหลักแห่งเทือกเขาแอลป์เบอร์นีส ตั้งอยู่ระหว่างรัฐทางตอนเหนือของ เบิร์นและรัฐวาเลทางตอนใต้ ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างอินเทอร์ลาเคนและเฟียช จุงเฟราเมื่อรวมกับไอเกอร์และเมินช์แล้ว ก่อให้เกิดกำแพงภูเขาขนาดยักษ์ที่มองเห็นเบอร์นีสโอเบอร์แลนด์และที่ราบสูงสวิส เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่น และมีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในเทือกเขาแอลป์ จุงเฟรายังเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่จุงเฟรา-อาเลทช์ ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกร่วมกับธารน้ำแข็งอาเลตช์ทางตอนใต้ เมื่อปี พ.ศ. 2544

  การเดินทางเริ่มจากนั่งรถรางไต่เขาขึ้นไปจนถึงสถานีความสูงกว่าสามพันเมตร นำท่านเที่ยวชมถ้ำน้ำแข็งที่เจาะเข้าไปในกลาเซียร์ จัดทำเส้นทางเดินเป็นวงกลม มีจุดถ่ายภาพเป็นระยะ แกะสลักน้ำแข็งประดับไฟแสงสีอย่างสวยงาม จากนั้นนำท่านเดินเทรลหิมะที่ถูกอัดแน่น (ควรมีรองพื้นปุ่มเหล็กกันลื่นแบบสวมทับรองเท้าปกติ) ระหว่างเดินเที่ยวจะมองเห็นยอดเขายุงเฟราได้อย่างชัดเจน ล้อมรอบด้วยยอดเขาหิมะที่งดงามน่าประทับใจ 

AMC_0375.jpg

Matterhorn

  มัทเมอร์ฮอร์น เป็นภูเขาแห่งเทือกเขาแอลป์ กั้นพรมแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี มียอดเขาปลายแหลมเกือบจะสมมาตร ตั้งอยู่ในพื้นที่มอนเตโรซาอัน ยอดสูงสุด 4,478 เมตร นับเป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์และยุโรป มองเห็นได้ชดเจนจากเมืองเซอร์แมท การเดินทางเริ่มจากเมืองเซอร์มัท นั่งรถไฟไต่เขากอร์เนอร์เกต ขึ้นไปจนถึงยอดเขาที่มีโรงแรมและร้านอาหาร มองเห็นวิวยอดเขามัทเทอร์ฮอร์นได้อย่างชัดเจน นำท่านเดินเทรลลงเขา ระหว่างทางจะผ่านทะเลสาบสองแห่ง มองเห็นเงาสะท้อนนำ้ของภูเขาได้อย่างสวยงาม เป็นจุดชมวิวสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของสวิสเซอร์แลนด์

  เย็น อิสระเดินเที่ยวชมเมืองเซอร์แมท มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับที่พัก

Schilthorn

ยอดเขาชิลธอร์น เป็นหนึ่งในยอดเขาที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงามและการท่องเที่ยวของสวิสเซอร์แลนด์ มีความสูงถึง 2,970 เมตร จากบนยอดเขาสามารถมองเห็นหุบเขา Lauterbrunnen และเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาซึ่งอยู่ทางเหนือของ Sefinenfurgge Pass การเดินทางไปยังยอดเขาชิลธอร์น เริ่มจากนั่งรถไฟไปยังเมือง Lauterbrunnen จากนั้นขึ้นเคเบิ้ลคาร์ แล้วต่อด้วยรถไฟบนเขาที่เชื่อมต่อไปยังหมู่บ้าน Murren ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่สวยงาม แวดล้อมไปด้วยแนวเทือกเขาแอลป์ที่สูงชันและมีหิมะ ธารน้ำแข็งปกคลุมยอดเขาตลอดทั้งเป็น จากหมู่บ้านต้องเดินทางขึ้นเขาด้วยเคเบิ้ลคาร์อีกครั้งจนถึงยอดเขาซึ่งมองเห็นวิว ทิวทัศน์แบบพาโนรามารอบทิศ ไล่ตั้งแต่ยอดเขาทิตลิส จุงเฟรา เมินช์ ไอเกอร์  หากสภาพอากาศดีจะมองไกลไปจนถึงเทือกเขาโวสจส์และป่าดำ รวมถึงยอดเขามองบลังค์ก็มองเห็นได้เช่นกัน

  การเดินทางท่องเที่ยวเริ่มต้นจากเมืองเลาเทอร์บรุนเนิน ไปยังหมู่บ้านเมอร์เรน นำท่านเดินเที่ยวชมความสวยงามของหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งของสวิสเซอร์แลนด์ และเดินเที่ยวชมเทรลรอบๆ หมู่บ้าน จากนั้นเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาด้วยเคเบิลคาร์ไปยังยอดเขาชิลธอร์น ที่นี่เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง เจมส์บอนด์ 007 ทำให้มีนักเที่ยวให้ความนิยมมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี และมีจุดชมวิวที่มองเห็นเทือกเขาแอลป์สวิสได้อย่างสวยงามแบบรอบทิศ 360 องศา จากนั้นนำท่านไปเดินเลียบหน้าผาที่จัดทำเป็นทางเดินพื้นกระจกใส มองเห็นพื้นล่างที่เป็นหุบเหวลึกลงไปจนดูน่าหวาดเสียว และเดินเทรลชมทิวทัศน์ของภูเขาหิมะที่งดงามตระการตา

First (Grindelwald)

  First คือชื่อของยอดเขาบนเนินเขาชวาร์ซฮอร์นในเบอร์นีสโอเบอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีในฐานะสถานีรถกระเช้าเหนือกรินเดลวาลด์ และบนยอดเขามีเส้นทางเดินเทรลที่สวยงาม พร้อมด้วยทางเดินเลียบหน้าผาอันน่าตื่นตาตื่นใจ นำท่านเดินชมและถ่ายภาพทิวทัศน์ยอดเขาหิมะแห่งเทือกเขาแอลป์ที่สวยงาม ไปถึงทะเลสาบแบชที่มีฉากหลังเป็นแนวเทือกเขาสูง หากสภาพอากาศดีจะเห็นเงาสะท้อนน้ำของภูเขาอย่างสวยงาม หลังจากเดินเทรลชมธรรมชาติแล้ว จะให้อิสระเดินชมเมืองกรินเดลวาลด์ หนึ่งในเมืองเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล 

Faulhorn

Faulhorn เป็นภูเขาในเทือกเขา Bernese Alps ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Brienz และเมือง Grindelwald ใน Bernese Oberland ยอดเขามีความสูง 2,681 เมตร มีเส้นทางเทรลสำหรับเดินชมธรรมชาติที่สวยงามมากมาย ระหว่างนั่งรถไฟไต่เขาสู่จุดเริ่มต้นเดินเทรล จะมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลสาบ Brienz ได้อย่างสวยงาม และบนยอดเขามีร้านอาหารบริการสำหรับนักเดินเขา พร้อมชมวิวเทือกเขาแอลป์ที่มีหิมะปกคลุมตลอดปีแบบพาโนรามา เส้นทางเทรลจะเลือกตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสมาชิก มีตั้งแต่ระยะใกล้ๆ 2-3 กิโลเมตร หรือระยะไกล 5 กิโลเมตรขึ้นไป โดยจะเดินเทรลเป็นวงกลม นับเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่งดงามในทริปนี้

Harder Kulm

ฮาร์เดอร์คูลม์ จุดชมวิวมุมสูงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นสถานีเคเบิลคาร์ที่ขึ้นจากตัวเมืองอินเทอร์ลาเคิน สถานีด้านบนมีความสูง 1,322 เมตร  ด้านบนมีร้านอาหารพร้อมระเบียงชมวิวพื้นกระจกที่ยื่นออกไปริมหน้าผาอันสูงชัน มองเห็นเมืองอินเทอร์ลาเคินและอุนเทอร์ซีน รวมทั้งทะเลสาบได้อย่างสวยงาม นำท่านเดินเทรลสั้นๆ บนยอดเขาชมทิวทัศน์อันสวยงามระยะทางราว 3-4 กิโลเมตร 

IMG_2439 2.JPG

Glacier 3000

  กลาเซียร์ 3000 คือสถานที่ท่องเที่ยวบนยอดเขาในช่วงฤดูร้อนที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 2,500 เมตร ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ภูเขาหิมะของแอลป์สวิสได้อย่างชัดเจนและสวยงาม ไฮไลท์ที่น่าสนใจคือ สะพานสลิงทางเดินลอยฟ้าเชื่อมระหว่างสองยอดเขา กลาเซียร์วอร์คทางเดินเที่ยวบนธารน้ำแข็ง และเส้นทางเทรลเดินชมทิวทัศน์อันสวยงามที่เปิดให้เดินได้เฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น (ทางเดินบางช่วงมีหิมะ)

30 สิงหาคม 2567 ลูเซิร์น-ริกิ

  ช่วงเช้าจะเดินทางออกจากอินเทอร์ลาเคิน ไปยังเมืองลูเซิร์น ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และจะพักที่เมืองนี้ 2 คืน ช่วงเช้าจะนำท่านเดินทางไปขึ้นเขา ริกิ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Queen of the Mountains เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ตอนกลาง เทือกเขานี้เกือบทั้งหมดล้อมรอบด้วยผืนน้ำจากแหล่งน้ำที่แตกต่างกันสามแห่ง ได้แก่ ทะเลสาบลูเซิร์น ทะเลสาบซุก และทะเลสาบเลาเออร์ซ เทือกเขานี้อยู่ในเทือกเขาชวีเซอร์แอลป์ และถูกแบ่งระหว่างรัฐชวีซและลูเซิร์น แม้ว่ายอดเขาหลักชื่อริกี คูล์ม ซึ่งอยู่ที่ความสูง 1,798 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จะอยู่ภายในรัฐชวีซก็ตาม การเดินทางต้องนั่งรถรางไต่เข้าไปถึงโรงแรมริกิ คูล์ม ที่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2359 และยังมีรถรางไต่เขาโบราณ Rigi Kaltbad ให้บริการโดยรถไฟภูเขาที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรป ชื่อ Rigi Railways บนยอดเขามีเทรลเดินสั้นๆ 1-3 กิโลเมตร มองเห็นวิวทะเลสาบและเมืองลูเซิร์นได้อย่างสวยงาม

  เย็น อิสระเที่ยวชมเมืองลูเซิร์น ช้อปปิ้ง ซื้อของที่ระลึก และรับประทานอาหารตามอัธยาศรัย

พักที่โรงแรม Hotel Monopol Luzern หรือเทียบเท่า ( หน้าสถานีรถไฟ )

31 สิงหาคม 2567 ลูเซิร์น-ทิตลิส

  เช้าวันนี้นำท่านเดินทางสู่ภูเขาทิตลิส ซึ่งเป็นภูเขาในเทือกเขาอูรีแอลป์ ตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างรัฐออบวาลเดินและรัฐเบิร์น ที่ระดับความสูง 3,238 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาทางตอนเหนือ มีชื่อเสียงในฐานะที่ตั้งของเคเบิลคาร์แบบหมุนได้แห่งแรกของโลก ทำให้ระหว่างเดินทางสู่ยอดเขาจะมองเห็นวิวได้แบบพาโนรามา 360 องศา เพลิดเพลินกับการเดินเที่ยวชมถ้ำน้ำแข็งที่ประดับไฟแสงสีอย่างสวยงาม และเดินบนสะพานลอยฟ้า Titlis Cliff Walk เป็นสะพานแขวนที่สูงที่สุดในยุโรป เปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2555 และบนยอดเขาแม้ว่าจะเป็นฤดูร้อน แต่ด้วยระดับความสูงกว่าสามพันเมตร ก็ยังมีหิมะขาวโพลนปกคลุมอยู่ทั่วไป

พักที่โรงแรม Hotel Monopol Luzern หรือเทียบเท่า ( หน้าสถานีรถไฟ )

1 กันยายน 2567 ลูเซิร์น-ซูริค

  หลังอาหารเช้าที่โรงแรม นั่งรถไฟไปสนามบินซูริค ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

10.30 เช็กอินเค้าท์เตอร์สายการบินไทย

13.30 ออกเดินทางโดยเที่ยวบิน TG 971 

 

2 กันยายน 2567 กรุงเทพฯ

05.30 เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมภาพประทับใจที่จะอยู่ในความทรงจำดีๆ ไปอีกนานแสนนาน

bottom of page